ซัมซุงเผยโฉม Samsung QLED TV นวัตกรรมทีวีอัจฉริยะ ในงาน QLED TV Experience Day 2018 ภายในงานสื่อมวลชนได้ทดสอบ ซัมซุงคิวแอลอีดีทีวี แบบเจาะลึก โดยการทดสอบทั้ง Q Picture, Burn-in Free, Q Style, Intelligent 4K Upscaling และ Soundbar
Station 1 : การรับชมภาพที่ดี จาก Q Pictureทีมงานได้นำสีน้ำหลากสีมาหยดใส่ตู้น้ำใส โดยมีกล้องวีดีโอที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพยนตร์คอยจับภาพการเปลี่ยนแปลงภายในตู้ไว้ตลอด แล้วเชื่อมต่อขึ้นบนจอทีวีให้ผู้ร่วมงานได้ชมการทดสอบกันแบบสดๆ ซึ่งภาพบนหน้าจอทีวีก็จะเห็นการกระจายตัวของสีน้ำที่เห็นได้อย่างชัดเจน เห็นภาพการแบ่งชั้นสี
ด้วยคุณสมบัติในการให้เม็ดสีนับล้าน สมบูรณ์แบบทุกเฉดสี (Color Volume 100%) ให้ทุกภาพบนหน้าจอทีวีมีสีสันสมจริงเหมือนตาเห็น พร้อมเทคโนโลยี Quantum Dot ที่ทำให้ภาพสวย สว่าง มีชีวิตชีวา เห็นภาพชัดทุกรายละเอียดในทุกสภาพแสง ด้วยระบบป้องกันแสงสะท้อน Ultra Black ที่แสดงภาพได้เหมือนต้นฉบับ เก็บทุกรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน ด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ Q HDR Elite
Station 2 : อายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่มีอาการจอไหม้ Burn-in Free Warranty“Burn In” คือ “อาการภาพติดค้างหน้าจอ” ซึ่งอาการนี้มีสาเหตุมาจากการเปิดภาพแช่ทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ เช่น โลโก้มุมจอช่องทีวี, หน้าต่างสกิล/ไอเทมเวลาเล่นเกม ที่เปลี่ยนฉากไปแล้ว แต่ก็ยังมีรอยภาพเก่าค้างอยู่เหมือนเป็นลายน้ำบางๆ เห็นแล้วก็ขัดหูขัดตาในการรับชมซึ่ง Station ได้ทดลองด้วยการโชว์หน้าจอทีวี 2 แบบ ด้านซ้าย คือ เป็น Samsung QLED TV Q7FN ส่วนด้านขวา คือ จอทีวียี่ห้ออื่น ทั้ง 2 จอผ่านการเปิดหน้าจอที่มีตัวอักษรค้างไว้เป็นเวลานานเท่าๆกัน ก่อนการทดสอบเล่นเกม
จอ Samsung QLED TV Q7FN ไม่มีรอย Burn In ตัวหนังสือค้าง
ส่วนจอทีวียี่ห้ออื่น จะมีรอย Burn In ตัวหนังสือ OLED TV จางๆค้างอยู่บนหน้าจอตลอดการเล่นเกมโดยจอซัมซุงคิวแอลอีดีทีวีผ่านการทดสอบความทนทานต่อการใช้งานเป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมง โดย Connect Testlab ห้องปฏิบัติการทดสอบชื่อดังระดับโลก ได้รับการรับรองว่าปราศจากอาการจอไหม้ หรือ ภาพค้างหน้าจอ (Burn-In) ทำให้อายุการใช้งานของจอทีวียาวนานขึ้น ไร้ปัญหาอาการจอไหม้ หรือการเสื่อมของจอภาพ
Station 3 : การจัดวางพื้นที่ด้วย Q Styleนิยามใหม่ของทีวีที่สามารถจัดวางไว้ที่ไหนก็ได้ วางบนขาตั้ง หรือติดบนผนังได้อย่างลงตัว พร้อมอุปกรณ์ยึด ผนังแบบ No-Gap Wall Mount ออกแบบมาเพื่อการติดตั้งทีวีให้แนบชิดไปกับผนัง ตอบโจทย์ทุกการตกแต่ง รวมถึงฟีเจอร์ Magic Screen ที่สามารถเปลี่ยนจอสีดําสนิทขณะปิดทีวี ให้เป็นภาพที่กลมกลืนกับลายกําแพงด้านหลังได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นภาพต่างๆ เช่น เป็นรูป จอนาฬิกา จอบอกวันที่ เวลา พยากรณ์อากาศ หรือภาพหน้าจออื่นๆ
และไฮไลท์ คือ เรื่องสายเชื่อมต่อที่ไม่รกรุงรังเหมือนแต่ก่อน ด้วยโซลูชั่น One Invisible Connection ที่จัดการสายเคเบิ้ลแบบ All in one รวมสายไฟต่างๆ เป็นเส้นเดียว
Station 4 : ภาพคมชัดทุกรายละเอียดด้วย Intelligent 4K Upscalingนวัตกรรม Intelligent 4K Upscaling จะช่วยปรับความชัดของภาพได้โดยอัตโนมัติ สามารถปรับภาพคุณภาพต่ำให้กลายเป็นภาพความละเอียดสูงระดับ 4K ด้วยเทคโนโลยีชิปประมวลผล Q Engine สามารถจับคู่สีได้สมจริง แสดงภาพได้อย่างสวยงามเหมือนภาพต้นฉบับ เติมเต็มรายละเอียดของภาพให้มีชีวิตชีวามากขึ้น
Station 5 : การทดสอบคุณภาพเสียงด้วย Samsung Harman/Kardonการทดสอบสุดท้าย คือ เรื่องของเสียง โดยซัมซุงได้ร่วมมือพัฒนากับ Harman/Kardon แบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก มาเพิ่มประสบการณ์ในการฟังระดับพรีเมียม ดื่มกับคุณภาพเสียงแบบสามมิติ จาก ดีทีเอส ผู้เป็นเจ้าของเทคโนโลยี ดอลบี้ แอทโมส และ ดีทีเอส-เอ็กซ์ ที่เชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth ช่วยให้ดีไซน์ของทีวีเข้ากันได้ดีกับซาวด์บาร์ได้อย่างลงตัว โดยไม่มีรอยต่อหรือสายไฟระโยงระยาง
Samsung QLED TV จะวางจำหน่ายทั้งรูปแบบหน้าจอโค้ง และหน้าจอแบนโดยมาใน 4 รุ่น ได้แก่ Q9F (75″, 65″) Q8C (65″, 55”) Q7F (55″, 65″, 75”) และ Q6F (55″, 65”)
ราคาเริ่มต้นที่ 49,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จุดขายซัมซุง ทั่วประเทศ และที่ samsung.com/th/qled
ขอบคุณที่มา https://www.it24hrs.com/2018/samsung-qled-tv-2018/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น